简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:คำถามสุด HOT ! มีรายได้จากการเทรด Forex ต้องจ่ายภาษี หรือไม่
คำถามสุดฮอต ที่ชาวนักเทรด Forex คงจะต้องอยากรู้ วันนี้ #WikiFX พามาคำตอบ ซึ่งเรื่องการเทรด Forex
ต้องจ่ายภาษี หรือไม่? ขอตอบว่า “ ต้องจ่าย”
เนื่องจากรัฐบาลไทยได้ออกมาประกาศกฎหมายเกี่ยวกับการระดมทุนด้วยเงินดิจิทัล (ICO) รวมถึง Cryptocurrency, Digital Token และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด และการเก็บภาษีจากการซื้อขายเงินดิจิทัล ได้แก่ ตั้งแต่ปี 2561 จุดประสงค์ก็เพื่อแก้ปัญหาการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินในการซื้อขายเงินดิจิทัล ซึ่งจุดนี้เป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันในหลายประเทศที่มีการซื้อขายเงินดิจิทัล เนื่องจากถ้าปล่อยให้ทุกคนสามารถซื้อขายอะไรก็ได้ โดยไม่ตรวจสอบแหล่งที่มาอาจถูกใช้ในเรื่องอาชญากรรม คอร์รัปชัน และการฟอกเงินได้
โดยกฎหมายฉบับนี้จะพูดถึงบริษัทที่จะเสนอขายเงินดิจิทัลว่าจะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อนทำการเสนอขาย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย อีกเรื่องหนึ่งคือ กำไรจากเทรด Forex ถือว่าเป็นการลงทุน ประเภทที่ 4 นักลงทุนจึงจำเป็นต้องเสียภาษี
เราต้องเสียภาษีเท่าไหร่?
สำหรับเกณฑ์รายได้ที่ต้องยื่นแบบ
เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2565
อัตราภาษีคิดคำนวณแบบขั้นบันได ได้ระบุไว้ดังนี้
รายได้ตั้งแต่ 0-150,000 บาท (จะได้รับการยกเว้นภาษี)
และจะเริ่มการเก็บภาษี ตั้งแต่รายได้ 150,001-300,000 บาท ในอัตราภาษี 5% (เสียสูงสุด 7,500 บาท)
รายได้ 300,001-500,000 บาท อัตราภาษี 10% เสียสูงสุด 20,000 บาท
ส่วนคนรวยๆอย่างเรา รายได้ 5 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 35% ตามธรรมเนียนคนรวยๆต้อง 35% เหมาๆจุกๆ
คณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex อ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูลหมดไส้หมดพุง แอปเดียวที่จบครบ เรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เสนอ 5 กลยุทธ์การเงินสำหรับคนวัยกลางคนในยุคแซนด์วิชเจเนอเรชั่น โดยเปรียบเทียบกับแนวคิดการเทรดฟอเร็กซ์ เพื่อให้เข้าใจง่ายและนำไปปรับใช้ได้จริง ครอบคลุมเรื่องการจัดการรายจ่าย การเตรียมเงินสำรอง การวางแผนร่วมกับครอบครัว การใช้เครื่องมือทางการเงิน และการวางเป้าหมายระยะยาว ช่วยให้ผู้อ่านบริหาร “พอร์ตชีวิต” อย่างมีสติและยั่งยืน
รีวิวโบรกเกอร์
เหตุการณ์ Black Wednesday ในปี 1992 คือวันที่ George Soros ใช้ความเข้าใจเชิงโครงสร้างและทุนมหาศาล “ชอร์ตค่าเงินปอนด์” จนธนาคารกลางอังกฤษต้องถอนตัวจากระบบ ERM และขาดทุนกว่า 3.3 พันล้านปอนด์ ขณะที่ Soros ทำกำไรพันล้านดอลลาร์ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่า ในตลาดการเงิน “ใครเข้าใจระบบก่อน ย่อมได้เปรียบ” และแม้แต่นโยบายรัฐ ก็ไม่อาจต้านแรงของกลไกตลาดได้
บทความเตือนนักลงทุนมือใหม่ถึง 5 พฤติกรรมเสี่ยงที่มักทำให้พอร์ตพัง เช่น เทหมดหน้าตัก, ไม่ยอมขายขาดทุน, ซื้อเพราะ FOMO, เทรดรายวันไร้แผน และไม่อัปเดตความรู้ แนะนำให้มีวินัย กระจายความเสี่ยง และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่ออยู่รอดในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา