简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เตือนภัย ! โบรกเกอร์ Muverse ตุ๋นเทรดเหรียญ เสียหายกว่า 1,000 ล้าน
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่กระทรวงยุติธรรม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายจากการถูกฉ้อโกงในการเทรดเหรียญคริปโท กว่า 30 ราย มีมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1,000 ล้านบาท เดินทางเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม โดยมีนายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปินวงศ์ ผอ.ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่องแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
นายเค (นามสมมติ) ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ถูกโบรกเกอร์ชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อขายเหรียญคริปโท ในตลาด Forex ในต่างประเทศโดยใช้ชื่อว่า “MuVerse” โดยพฤติการณ์คือเปิดชักชวนให้นักลงทุนเช่นพวกตนมาเทรดเหรียญผ่านโบรกเกอร์รายนี้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 โดยเสนอว่าหากลงทุนผ่านโบรกเกอร์รายนี้จะได้รับโบนัสในการลงทุนซื้อขาย 30% อีกทั้งยังมีแรงจูงใจด้วยการจัดทริปเดินทางไปเที่ยวในต่างประเทศและแจกโทรศัพท์มือถือ รวมถึงยังมีนักแสดงนายแบบและบุคคลในแวดวงสังคมชั้นสูงร่วมลงทุนและช่วยประชาสัมพันธ์ จึงทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการชักชวนกันแบบปากต่อปาก อาศัยความใกล้ชิด ความไว้วางใจ การมีเครดิตในสังคมในการจูงใจชักชวน
(จากการตรวจสอบของ WikiFX และ Wikibit พบว่า เคยมีผู้ใช้งานแจ้งเรื่องเข้ามาเกี่ยวกับโบรกเกอร์ Muverse เช่นกัน แต่แอดก็ไม่แน่ใจว่าเป็นโบรกเดียวกันกับที่มีในเว็บหรือไม่ อย่างไรก็ดีโบรกเกอร์ Muverse ที่มีในเว็บไซต์ของ Wikibit ก็เป็นโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต และใบกำกับดูแล นักลงทุนทุกท่านควรหลีกเลี่ยงก่อนจะตกเป็นเหยื่อของโบรกเกอร์ต้มตุ๋น)
นายเค กล่าวอีกว่า ในระหว่างการลงทุนช่วงแรก ๆ ตนและทุกคนยังสามารถถอนเงินออกได้ แต่การถอนเงินออกจะมีเงื่อนไขกำหนดว่าบุคคลนั้นจะหมดสิทธิ์ได้รับโบนัสการลงทุน 30% จึงทำให้นักลงทุนหลายคนตัดสินใจวางเงินไว้ภายในพอร์ตตัวเองเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว กลับพบว่าระบบเริ่มมีปัญหา ไม่สามารถถอนเงินออกจากในพอร์ตได้ และแอดมินให้เหตุผลว่าระบบถูกแฮกจากต่างจังหวัด ทำให้ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จากนั้นก็พบว่ามีการปิดเว็บไซต์และระบบของโบรกเกอร์ซื้อขาย ทำให้ไม่สามารถนำเงินที่ลงทุนค้างไว้ออกมาได้ อย่างไรก็ตาม ในบรรดาผู้เสียหายบางส่วนได้รวมตัวกันจึงพบว่าเบื้องต้นขณะนี้มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1,000 ล้านบาทแล้ว เพราะการลงทุนนั้นเริ่มต้นที่ 30,000 บาท หลายคนเมื่อลงทุนแล้วเห็นปันผลดี มีกำไร จึงลงทุนเพิ่มขึ้นและค้างเงินไว้ในพอร์ต บางรายลงทุนสูงตั้งแต่หลักแสนบาท-หลักสิบล้านบาท ความเสียหายจึงมีมูลค่ามาก
นายเค กล่าวต่อว่า เมื่อผู้เสียหายทวงถามไปที่บริษัทโบรกเกอร์ดังกล่าว ก็มักจะถูกเกลี้ยกล่อมไม่ให้แจ้งความดำเนินคดี โดยอ้างว่าการแจ้งความนั้นไม่ได้ช่วยให้ได้รับเงินคืนมา แต่ให้ไปลงทุนเทรดเหรียญกับโบรกเกอร์อื่นแทน สักระยะไม่นานก็จะได้เงินคืนเอง การทำให้เป็นคดีความรังแต่จะทำให้เสียเวลาทำมาหากิน อีกทั้งระบบอาจจะกลับมาใช้บริการได้ปกติในอนาคต แต่ผู้เสียหายหลายรายเล็งเห็นว่าเวลาได้ล่วงเลยมาเป็นเวลานาน เกรงว่าจะไม่ได้รับเงินคืน จึงกระจายกันไปแจ้งความตามพื้นที่สถานีโรงพักต่างๆ ทั่วประเทศ ก่อนที่จะรวมตัวกันเข้ามาขอให้เพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ เพื่อขอให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษเพื่อติดตามช่วยเหลือให้ผู้เสียหาย
ขณะที่นายโอ หนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า ตนคิดว่าโบรกเกอร์รายนี้มีพฤติการณ์ที่เป็นไปได้ 2 ลักษณะ คือ มีการอุ้มไว้เอง โดยที่ไม่ส่งเงินเทรดเหล่านี้เข้าระบบของต่างประเทศ (หรือเจ้ามือ) เพราะมั่นใจว่ารับไหวเคลียร์ได้ หรืออีกกรณีคือตั้งใจวางแผนไว้ว่าในกรอบระยะเวลาการลงทุนประมาณนี้ จำนวนมูลค่าการลงทุนทะลุเป้าแล้วก็ฉวยโอกาสหนีไปเมื่อระบบล่ม ตรงนี้คือสิ่งที่ตนติดใจสงสัย เพราะเราเป็นนักลงทุน ก็ไม่เคยคิดว่าจะถูกฉ้อโกงเช่นนี้ เพราะที่ผ่านมาก็มีการการันตีด้วยบุคคล ความใกล้ชิด ความสนิทสนมที่น่าเชื่อถือได้มาตลอด และเเรกๆ ก็ถอนเงินได้จริง จนมามีปัญหาเกิดขึ้นช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า การลงทุนแล้วได้มาง่าย ไม่มีอยู่จริง การที่มีบุคคลใดอ้างว่าตัวเองนั้นเป็นโบรกเกอร์มืออาชีพที่สามารถทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนสูง ตนอยากเตือนว่าโบรกเกอร์เก่งๆ ไม่มีจริง อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่มาชักชวนเหล่าผู้เสียหายกลุ่มนี้ ตนทราบว่าบางรายอยู่เบื้องหลังแชร์ Forex-3D อีกด้วย แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ต้องหา ตนจึงขอให้ทางกระทรวงยุติธรรมช่วยเร่งรัดเรื่องนี้ และประสานขอให้รับเป็นคดีพิเศษ
ที่มา : สำนักข่าวไทย
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
GVD Markets ออกคำเตือนด่วนถึงนักเทรดทั่วโลก หลังพบเว็บไซต์ปลอมในอินโดนีเซียแอบอ้างชื่อและโลโก้ของบริษัท เพื่อหลอกลวงให้ผู้ใช้ฝากเงิน ก่อนยึดทรัพย์สินโดยผิดกฎหมาย เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันการเงิน GVD Markets จึงร่วมกับ WikiFX เร่งตรวจสอบ พร้อมแนะนำให้นักเทรดตรวจสอบข้อมูลโบรกเกอร์ผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ และรายงานกิจกรรมต้องสงสัยทันที เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ในอนาคต
Michael Bamber เทรดเดอร์สายกองทุน แชร์ 5 หลักการเร่งเส้นทางสู่ความสำเร็จในตลาด Forex โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกนานปี เน้นวินัย ระบบความเสี่ยงที่ชัดเจน คุมขาดทุนรายวัน มีกลยุทธ์สำรอง และควบคุม Drawdown จุดสำคัญคือ “อยู่รอด” ไม่ใช่แค่ “ได้เยอะ” – เพราะตลาดมีทุกวัน แต่พอร์ตพังได้แค่ครั้งเดียว.
บทความนี้พาผู้อ่านไปรู้จักกับ “ดาร์กเว็บ” พื้นที่ลับของอินเทอร์เน็ตที่มักใช้ในการซื้อขายข้อมูลผิดกฎหมาย เช่น บัญชีการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต และซอฟต์แวร์แฮกระบบ ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความปลอดภัยของนักเทรด โดยเฉพาะในยุคที่การลงทุนเชื่อมโยงกับโลกออนไลน์อย่างแน่นแฟ้น บทความยังแนะนำวิธีป้องกันตัวเอง 5 ข้อ เช่น ใช้ 2FA และตั้งรหัสผ่านอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวหลุดไปยังพื้นที่อันตรายเหล่านี้ พร้อมย้ำว่า “การรู้เท่าทัน” คือเกราะป้องกันชั้นแรกของนักลงทุนยุคดิจิทัล.
วงการคริปโตในไทยอาจได้รับผลกระทบครั้งใหญ่ หลัง Binance มีแนวโน้มจะถอด “เงินบาท” ออกจากระบบซื้อขายแบบ P2P ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง ก.ล.ต. ไทยออกมาตรการควบคุมธุรกรรมคริปโตอย่างเข้มงวด เพื่อต่อสู้กับบัญชีม้าและการฟอกเงิน โดย Binance ยังไม่ระบุวันชัดเจน แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อพฤติกรรมนักลงทุนและภาพรวมตลาดคริปโตในประเทศ.
ATFX
Saxo
Neex
FXCM
FOREX.com
AvaTrade
ATFX
Saxo
Neex
FXCM
FOREX.com
AvaTrade
ATFX
Saxo
Neex
FXCM
FOREX.com
AvaTrade
ATFX
Saxo
Neex
FXCM
FOREX.com
AvaTrade