简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:“เทมู” ทุ่มเงินหลายล้านดอลล์ ยิงโฆษณาช่วง Super Bowl หวังกระตุ้นยอดขายในสหรัฐ
เทมู (Temu) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนได้ทุ่มเม็ดเงินมหาศาลในช่วงการแข่งขันชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอลประจำปีของเนชันแนลฟุตบอลลีก (NFL) หรือการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ (Super Bowl) 2567 โดยออกโฆษณาระหว่างพักการแข่งขัน 6 ครั้ง และแจกรางวัลมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมุ่งเป้ากระตุ้นยอดขายในสหรัฐที่กำลังซบเซา
ข้อมูลจากบลูมเบิร์ก เซกเคินด์ เมเชอร์ (Bloomberg Second Measure) ซึ่งติดตามข้อมูลการทำธุรกรรมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตส่วนหนึ่งในสหรัฐพบว่า ยอดขายของเทมูลดลง 12.5% ในเดือนธ.ค. 2566 เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และลดลง 4.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับการเติบโต 50% ในช่วงกลางปี 2566 แม้ว่าโดยรวมแล้วยอดค้าปลีกในสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนม.ค.ก็ตาม นอกจากนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ซื้อสินค้าบนเทมูก็ลดลงด้วยเช่นกัน
การสำรวจของมอร์แกน สแตนลีย์ในช่วงปลายเดือนม.ค.พบว่า ผู้ใช้เกือบ 1 ใน 3 วางแผนจะซื้อสินค้าบนเทมูน้อยลงในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งในบรรดาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนั้น มีเพียงอีเบย์ (eBay) และเอ็ตซี (Etsy) เท่านั้น ที่มีแนวโน้มการคาดการณ์ที่ต่ำกว่า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เทมูน่าจะทุ่มเงินไปหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับแคมเปญโฆษณาของ Super Bowl โดยค่าโฆษณาความยาว 30 วินาที มีราคาสูงถึง 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งข้อมูลจากกูเกิล เทรนด์ส (Google Trends) ระบุว่า จำนวนการค้นหาเทมูบนกูเกิลพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงที่โฆษณาออกอากาศ อย่างไรก็ตาม การค้นหาเทมูบนกูเกิลได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ค. 2566
ทั้งนี้ การลดลงของรายได้และจำนวนผู้ใช้ก่อให้เกิดการตั้งคำถามว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทมูในสหรัฐ อาจชะลอตัวลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ และอาจไม่เติบโตพอที่จะสามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่อย่างอะเมซอน (Amazon) ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดในเดือนธ.ค. เนื่องจากผู้ซื้อเลือกการจัดส่งที่รวดเร็วของอะเมซอน มากกว่าสินค้าจากเทมูที่มีราคาถูก แต่จัดส่งล่าช้ากว่า
ขอบคุณสำนักข่าวอินโฟเควสท์
.
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :
https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย