简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:CPI ส่งผลต่อคู่ฟอเร็กซ์อย่างมาก ต่อการประเมินค่าสกุลเงินของประเทศนั้นที่คำนวณเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ หากข้อมูล CPI หรือ Core CPI สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด มูลค่าของสกุลเงินมีแนวโน้มที่จะลดลงหาก CPI หรือ Core CPI ต่ำ จะได้รับความสนใจจากตลาดสกุลเงินมากขึ้น
อีกหนึ่งข่าวที่แอดเหยี่ยวอยากให้นักเทรดติดตาม คือข่าว CPI ที่ประกาศในวันนี้ข่าวนี้ส่งผลต่อตลาด Forex อย่างไร? อ่านแบบเข้าใจได้ง่ายๆ ในบทความนี้เลยครับ
CPI เป็นตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อที่ถูกจับตามองมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นจึงส่งผลกระทบต่อสกุลเงิน USD โดยถูกทำขึ้นผ่านการสัมภาษณ์และการสำรวจแรงงานในเมือง โดยมีผู้บริโภคในเมืองประมาณ 24,000 ราย มาให้ข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายกับสำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ในแต่ละไตรมาส
แม้ว่ากระบวนการจะแตกต่างกันไปในเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ แต่ประเทศเศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่จะประกาศข้อมูล CPI ต่อสาธารณะ ความผันผวนของ CPI อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก
CPI ส่งผลต่อคู่ฟอเร็กซ์อย่างไร?
อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการประเมินค่าสกุลเงินของประเทศนั้นที่คำนวณเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ หากข้อมูล CPI หรือ Core CPI สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด มูลค่าของสกุลเงินมีแนวโน้มที่จะลดลงหาก CPI หรือ Core CPI ต่ำ จะได้รับความสนใจจากตลาดสกุลเงินมากขึ้น เพราะข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อได้แม่นยำ และไม่มีรายการสินค้าที่มีความผันผวน นอกเหนือจากตัวเลขล่าสุดแล้ว บางครั้งตลาดForex อาจมีความผันผวนเพราะการปรับเปลี่ยนข้อมูลตัวเลข CPI ก่อนหน้านี้ด้วยครับ
อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จะทำให้มูลค่าของหน่วยสกุลเงินแต่ละสกุลลดลง เพราะผู้ใช้สกุลเงินนั้นๆ จำเป็นต้องมีเงินมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงของ CPI อาจส่งผลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลาง CPI ที่สูงขึ้นอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ทำไม? CPI จึงมีความสำคัญกับ Forex
CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภคช่วยให้เทรดเดอร์ Forex มีข้อมูลเชิงปริมาณเกี่ยวกับสถานะของอัตราเงินเฟ้อ สินค้าและบริการของสหรัฐฯ ให้ทราบถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อของอเมริกาในปัจจุบัน ตัวบ่งชี้นี้จึงมักใช้คำนวณร่วมกับ PPI หรือดัชนีราคาผู้ผลิต
เมื่อธนาคารกลางตัดสินใจว่าจะปรับระดับอัตราดอกเบี้ยของเกณฑ์มาตรฐาน เช่นอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลาง (Federal Funds Rate) หรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (Prime Rate) ผู้กำหนดนโยบายที่ทำงานเกี่ยวกับเงินเช่นธนาคารกลางสหรัฐฯ จะตรวจสอบตัวเลข CPI และข้อมูลหรือตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนจะกระจายไปยังเศรษฐกิจในภาคส่วนอื่นๆ ของอเมริกา ยกตัวอย่างเช่นการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และการกู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ การที่อัตราดอกเบี้ยลดลงก็อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ในทางกลับกัน หากเพิ่มขึ้นก็สามารถยับยั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ด้วยครับ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก atfx
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
IC Markets Global
GO Markets
GTCFX
KVB
Neex
STARTRADER
IC Markets Global
GO Markets
GTCFX
KVB
Neex
STARTRADER
IC Markets Global
GO Markets
GTCFX
KVB
Neex
STARTRADER
IC Markets Global
GO Markets
GTCFX
KVB
Neex
STARTRADER