简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:นำบทความดี ๆ จากคุณต้า Forex Risk Way มาฝากกันอีกแล้ว โดยเนื้อหาในครั้งนี้คือวิธีการเพิ่มศักยภาพของ Indicator BB
วันนี้แอดเหยี่ยวนำบทความดี ๆ จากคุณต้า Forex Risk Way มาฝากกันอีกแล้ว โดยเนื้อหาในครั้งนี้คือวิธีการเพิ่มศักยภาพของ Indicator BB
Bollinger Band คือ อินดิเคเตอร์ที่มีพื้นฐานมาจาก Moving Average (MA) ถูกสร้างขึ้นโดย John Bollinger เมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1980 และมีชื่อเรียกสั้น ๆ ว่า BB ซึ่ง Bollinger Band นั้นจะคำนวณด้วยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation: SD) เพื่อใช้วัดค่าความผันผวนของราคา ทำให้ Bollinger Band Indicator เคลื่อนไหวตามเทรนด์และโมเมนตัมที่เกิดขึ้นในตลาด
Bollinger Band(BB) x Session รูปแบบ Reversal Trading วิธีการเพิ่มศักยภาพของ Indicator BB โดยการใช้ช่วงเวลาและพฤติกรมมของตลาดให้สอดคล้องกับ BB
ในทางกลับกันสำหรับพี่ๆที่ใช้ Bollinger Band รันเทรนด์ นั้นโดยการใช้
Upper Band รัน Up Trend
Lower Band รัน Down Trend
สามารถใช้ช่วงเวลาที่สินค้านั้นมี Volatality ที่สอดคล้องกับสินค้านั้นเช่น
EUR/USD,GBP/USD รันเทรนด์โดยใช้ BB ช่วงบ่ายของไทย London เป็นต้นครับ
และตัวอย่างภาพในโพสนี้จะท่าการเทรด Reversal สินค้า EUR/USD . GBP/USD มักจะ Sideway ช่วงเช้าของไทย จึงทำให้การเทรดมีประสิทธิมากขึ้นครับ
และการตั้งค่า Indicator ต้าใช้ค่า BB ที่ Period 12 แทน 20 ใน M15 เป็นการใช้ค่าเฉลี่ยของช่วงเวลาตลาดพึ่งเปิดตอนตี 4-5 มาทำค่าเฉลี่ยมาเทรด ให้สอดคล้องกับช่วงเช้าของไทยครับ
M15 = 4 แท่งเทียน = 1 ชั่วโมง แปลว่า ใช้ Period 12 แท่ง เป็นการใช้ค่าเฉลี่ยย้อนหลังกลับไป 3 ชั่วโมงครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Forex Risk Way
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย