简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การห้ามซื้อขายฟอเร็กซ์ในบางประเทศเกิดจาก 2 เหตุผลหลัก ได้แก่ ความปลอดภัยของนักลงทุนและความเสถียรของค่าเงิน ตลาดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงสูง ทั้งจากเลเวอเรจและกลยุทธ์การตลาดของโบรกเกอร์ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนขาดทุนหนัก นอกจากนี้ ในประเทศที่ใช้ระบบค่าเงินคงที่ ตลาดฟอเร็กซ์อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น วิกฤตเศรษฐกิจในอดีตของไทย แม้ฟอเร็กซ์จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่ยังคงมีปัญหาความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ การเตรียมพร้อมและใช้เครื่องมือช่วยตรวจสอบจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนในตลาดนี้
โดยปกติแล้ว การห้ามซื้อขายฟอเร็กซ์ในบางประเทศมักมาจากเหตุผลสำคัญ 2 ประการ ซึ่งเป็นข้อกังวลหลักที่หลายรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง แน่นอนว่าอาจมีข้อยกเว้นและเหตุผลอื่น ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ทั้งสองข้อนี้ถือเป็นแกนหลักที่ช่วยไขปริศนาว่าทำไมหลายประเทศยังปิดกั้นตลาดฟอเร็กซ์ มาดูกันเลยว่าแต่ละเหตุผลนั้นคืออะไร!
1. ความปลอดภัยของนักลงทุน
ตลาดฟอเร็กซ์อาจดูเหมือนเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ แต่ในความจริงแล้วกลับมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงลิ่ว แอดเหยี่ยวขอชวนคิดง่าย ๆ ว่า การเทรดฟอเร็กซ์เหมือนการเดินอยู่บนสะพานเชือกที่โยกเยก หากไม่มีความรู้และการจัดการความเสี่ยงที่ดี คุณอาจตกลงมาเจ็บหนักได้!
ยกตัวอย่างในยุโรป สหภาพยุโรป (EU) ได้ตั้งหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง ESMA ที่ไม่ถึงกับห้ามเทรดฟอเร็กซ์ทั้งหมด แต่พวกเขาออกข้อจำกัดมากมายที่ช่วยปกป้องนักลงทุน เช่น การจำกัดเลเวอเรจและห้ามโบนัสเงินฝาก เพราะอะไรน่ะเหรอ? ลองคิดดูว่าหากโบรกเกอร์เสนอ “โบนัส” ที่ดูเหมือนจะเพิ่มทุนให้คุณ มันอาจสร้างภาพลวงตาว่าคุณมีทุนหนากว่าความเป็นจริงและช่วยลดความระมัดระวังในการลงทุนของคุณเอง ยิ่งไปกว่านั้น โบรกเกอร์บางรายอาจใช้กลยุทธ์โฆษณาที่ไม่ตรงไปตรงมา จนทำให้เทรดเดอร์มือใหม่หลงทางไปกับคำว่า “ถอนได้” ที่ซ่อนเงื่อนไขยุ่งยากไว้ข้างหลัง
อีกหนึ่งประเด็นที่เกี่ยวข้องคือ “เลเวอเรจ” ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถซื้อขายได้มากกว่าทุนที่ตนมีจริง แต่หากมองให้ลึกลงไป เลเวอเรจก็เหมือนดาบสองคมที่เสี่ยงจะพาคุณขาดทุนย่อยยับ เพราะเมื่อคุณขาดทุน เงินที่เสียไปคือเงินที่ยืมมา! ระบบนี้จึงมักถูกมองว่าเป็นกลไกที่สร้าง “ความรู้สึกปลอม ๆ” ว่าเทรดเดอร์สามารถควบคุมตลาดได้ ทั้งที่จริงแล้วพวกเขาอาจอยู่ในจุดที่เสี่ยงที่สุด
2. ความเสถียรของค่าเงิน
เหตุผลสำคัญอีกข้อคือ ประเทศที่มีระบบค่าเงินคงที่ (Fixed Exchange Rate) มักเลือกที่จะจำกัดหรือห้ามการซื้อขายฟอเร็กซ์ เพราะตลาดฟอเร็กซ์อาจเข้ามาทำลายสมดุลของระบบการเงินประเทศได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ประเทศไทยในอดีต ที่เคยตรึงค่าเงินบาทไว้กับดอลลาร์สหรัฐในอัตรา 20 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ แต่เมื่อเศรษฐกิจไทยไม่สามารถแข่งขันกับสหรัฐฯ ได้ในระยะยาว การคงค่าเงินเช่นนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ นำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจครั้งสำคัญอย่าง “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ที่ค่าเงินบาทต้องลอยตัวและปล่อยให้อุปสงค์และอุปทานเป็นตัวกำหนด
ปัจจุบันยังมีหลายประเทศ เช่น คิวบา ฮ่องกง และจอร์แดน ที่พยายามตรึงค่าเงินไว้เพื่อความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจในประเทศ หากปล่อยให้การซื้อขายฟอเร็กซ์เป็นไปอย่างเสรี ระบบค่าเงินคงที่เหล่านี้จะเสี่ยงพังครืนทันที เพราะตลาดฟอเร็กซ์จะดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาเก็งกำไรและแทรกแซงค่าเงิน ทำให้รัฐบาลไม่สามารถควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนได้อีกต่อไป
โอกาสและความท้าทายในตลาดฟอเร็กซ์ประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย แม้ตลาดฟอเร็กซ์ยังไม่ถูกยอมรับอย่างเต็มที่ แต่ความนิยมในการเทรดฟอเร็กซ์กลับเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งนำมาสู่ปัญหาโบรกเกอร์เถื่อนและการโกงที่ระบาดหนักในช่วงที่ผ่านมา แอดเหยี่ยวจึงขอแนะนำให้เทรดเดอร์ทุกคนปกป้องตัวเองด้วยการใช้แอป WikiFX แอปพลิเคชันที่ช่วยให้คุณตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โหลดไว้ติดเครื่องจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของโบรกเกอร์เถื่อน!
ตลาดฟอเร็กซ์อาจเป็นโอกาสทองสำหรับนักเทรดที่เข้าใจเกมและมีความรอบคอบ แต่ก็ไม่แปลกที่หลายประเทศยังคงปิดกั้นเพื่อปกป้องเศรษฐกิจและประชาชนของตนเอง ดังนั้นก่อนจะก้าวเข้าสู่ตลาดนี้ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม และใช้เครื่องมือที่ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจ!
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
STARTRADER
Exness
XM
Pepperstone
FOREX.com
GO Markets
STARTRADER
Exness
XM
Pepperstone
FOREX.com
GO Markets
STARTRADER
Exness
XM
Pepperstone
FOREX.com
GO Markets
STARTRADER
Exness
XM
Pepperstone
FOREX.com
GO Markets