简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เงินเฟ้อไม่ใช่สิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ แต่คุณสามารถรับมือและปรับตัวได้ หากเข้าใจและเตรียมพร้อมอย่างถูกวิธี อย่าลืมติดตามข่าวสารและวางแผนการเงินให้เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถก้าวผ่านทุกความท้าทายในยุคที่เงินมีค่าลดลงได้อย่างมั่นคงครับ!
แอดเหยี่ยวขอมาแชร์เรื่องที่ใกล้ตัวสุด ๆ แต่หลายคนมองข้ามไป นั่นก็คือ “เงินเฟ้อ” หากคุณเป็นนักเทรดหรือแม้แต่คนทั่วไปที่ต้องรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ การเข้าใจเงินเฟ้อจะช่วยให้คุณจัดการกับผลกระทบต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น!
เงินเฟ้อไม่ใช่แค่ศัพท์เศรษฐกิจ แต่คือแรงสั่นสะเทือนที่ส่งผลโดยตรงกับเงินในกระเป๋าของเรา แล้วมันกระทบอย่างไรบ้าง และเราจะปรับตัวอย่างไร? มาเรียนรู้ไปพร้อมกันครับ!
เงินเฟ้อคืออะไร?
เงินเฟ้อ คือ ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยรวมในเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าของเงินลดลง หรือพูดง่าย ๆ คือ เงินที่คุณมีซื้อของได้น้อยลงกว่าเดิม ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น หรือต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
2 สาเหตุหลักของเงินเฟ้อ
เกิดจากความต้องการสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น แต่มีสินค้าในตลาดไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ขายปรับราคาสูงขึ้น
เกิดจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น วัตถุดิบ ค่าแรงงาน หรือพลังงานสูงขึ้น ผู้ผลิตจึงต้องปรับราคาสินค้าให้สูงตาม
ผลกระทบจากเงินเฟ้อ
ผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป
ผลกระทบต่อผู้ประกอบการและนักธุรกิจ
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ
เงินเฟ้อ: ดาบสองคม
เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในระดับพอดีจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ธุรกิจมีกำไร และมีแรงจูงใจในการผลิตสินค้า สร้างงานเพิ่มขึ้น แต่ถ้าสูงเกินไปจะทำให้ค่าครองชีพพุ่ง ส่งผลกระทบทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และเศรษฐกิจโดยรวม
เราจะรับมือกับเงินเฟ้อได้อย่างไร?
1.บริหารการเงินอย่างชาญฉลาด
2.กระจายการลงทุน
3.ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ
4.เพิ่มทักษะเพื่อเพิ่มรายได้
สรุป เงินเฟ้อไม่ใช่สิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ แต่คุณสามารถรับมือและปรับตัวได้ หากเข้าใจและเตรียมพร้อมอย่างถูกวิธี อย่าลืมติดตามข่าวสารและวางแผนการเงินให้เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถก้าวผ่านทุกความท้าทายในยุคที่เงินมีค่าลดลงได้อย่างมั่นคงครับ!
ขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย