简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ตำรวจ CIB รวบสาวใหญ่เจ้าของบัญชีรับโอนเงิน 6.2 พันล้าน จากแก๊งโรแมนซ์สแกม
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม น.ส.อรทัยฯ ในความผิดฐาน “อั้งยี่, ซ่องโจร, มีส่วนรวมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันฟอกเงิน”
สถานที่จับกุม บริเวณห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ม.3 ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณปี 2560 ผู้ต้องหาได้เดินทางไปทำงานที่ร้านนวดในประเทศมาเลเซีย และได้พบรักกับหนุ่มผิวสี ชาวไนจีเรียผ่านการแนะนำของเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน จากนั้นแฟนหนุ่มชาวไนจีเรียได้รับผู้ต้องหามาอยู่ด้วยกันและได้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โดยที่ผู้ต้องหาไม่ต้องทำงาน ซึ่งระหว่างอยู่ด้วยกัน ผู้ต้องหาทราบว่า แฟนหนุ่มสนใจจะเปิดบริษัทในประเทศไทย
หลังจากอยู่ด้วยกันเกือบ 2 ปี แฟนหนุ่มชาวไนจีเรีย ได้ชักชวนให้ผู้ต้องหาเปิดบัญชีให้ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินโดยให้เหตุผลว่า ตนเองเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินในประเทศไทยได้ โดยจะได้รับค่าตอบแทนในการเปิดบัญชี บัญชีละ 6,500 บาท ซึ่งผู้ต้องหาก็ได้ทำการเปิดบัญชีไว้หลายบัญชี จากนั้นมอบบัญชีให้แฟนหนุ่มชาวไนจีเรียเป็นผู้ดำเนินการ ฝาก-ถอน ทั้งหมด ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าบัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหาได้เปิดให้กับแฟนชาวไนจีเรีย เป็นบัญชีธนาคารที่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับบริษัทที่มีการรับโอนเงินเกี่ยวข้องกับคดีของนางสาวชมานันทน์ฯ กับพวกร่วมกันลักทรัพย์เอาเงินของบริษัทอื่น โดยที่มีการลักลอบโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของบริษัทดังกล่าวจำนวนหลายครั้ง ทำให้บริษัทดังกล่าว ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 6,223,872,674.31 บาท จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซียและทราบว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อเยี่ยมลูก ซึ่งเดินทางจากประเทศมาเลเซีย มายังท่าอากาศยานหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนจับกุมและได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด่าน ตม.ทอ.หาดใหญ่ เฝ้าสังเกตุการณ์บริเวณห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองด่าน ตม.ทอ.หาดใหญ่ ได้พบผู้ต้องหา จึงขอดูหนังสือเดินทาง พบว่าเป็นผู้ต้องหาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาและนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.รรท.ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. สั่งการให้ พ.ต.ต.เอกรัฐ จันทร์มณี สว.กก.1 บก.ป. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ กก.1 บก.ป. ดำเนินการ
ขอบคุณข้อมูลจาก ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เตือนภัยนักลงทุน Forex ถึงกลโกงที่ระบาดในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะการหลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดียที่อ้างผลตอบแทนสูงเกินจริง ยกเคสจริงจาก Tiktok ที่ทำให้ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 6 ล้านบาท พร้อมแนะนำวิธีตรวจสอบโบรกเกอร์ Forex อย่างปลอดภัย เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในยุคดิจิทัล.
ตำรวจสอบสวนกลางบุกค้น 8 ร้านแลกคริปโตเถื่อนในกรุงเทพฯ ชลบุรี และภูเก็ต หลังพบมีเงินหมุนเวียนกว่า 14,000 ล้านบาท เชื่อมโยงอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งค้ายา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และฟอกเงิน ร้านเหล่านี้ไม่มีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ให้บริการเฉพาะชาวต่างชาติ ไม่รับลูกค้าไทย และซ่อนโครงสร้างบริษัทซับซ้อน ตำรวจเตือน! ระวังทำธุรกรรมกับร้านผิดกฎหมาย อาจกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมฟอกเงินโดยไม่รู้ตัว
ภัยไซเบอร์รูปแบบใหม่กำลังระบาด! เพจดัง “Drama-addict” เตือนภัยกลโกงแนบเนียนที่หลอกเหยื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมใช้ SMS ปลอมจากธนาคารทำให้แอปธนาคารถูกระงับจริง ชี้มิจฉาชีพโทรแอบอ้างเป็นตำรวจ ใช้ข้อมูลส่วนตัวโทรแจ้งธนาคารปลอมตัวเป็นเจ้าของบัญชี แล้วใช้ช่องโหว่ลวงให้เหยื่อโอนเงินด้วยตัวเอง บทความนี้เผยกลวิธีและวิธีป้องกันตัวจากขบวนการหลอกลวงที่น่ากลัวที่สุดในตอนนี้
บัญชีม้าคริปโทฯ กลายเป็นช่องทางฟอกเงินหลักของมิจฉาชีพในปี 2567 ก่อความเสียหายกว่า 37,000 ล้านบาท โดยใช้ธุรกรรม P2P ที่ยากต่อการติดตาม รัฐ-เอกชนเร่งปราบปราม พร้อมออกกฎหมายควบคุมแพลตฟอร์มคริปโทฯ หวังสกัดภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ