简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ทรัมป์เตรียมขึ้นภาษี 25% สำหรับรถยนต์ ยา และเซมิคอนดักเตอร์
ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า เขามีแผนจะขึ้นภาษีนำเข้าประมาณ 25% สำหรับรถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และเวชภัณฑ์ โดยบางส่วนจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนเมษายน
คำแถลงของเขาซึ่งให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่รีสอร์ต Mar-a-Lago ในรัฐฟลอริดา ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในแนวทางของทรัมป์ที่ต้องการเสริมความแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ในการค้าระหว่างประเทศ
ทรัมป์ระบุว่า เขาจะขึ้นภาษีนำเข้ายาและเซมิคอนดักเตอร์ที่อัตรา 25% และอัตราภาษีดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีหน้า อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กำหนดเวลาชัดเจนสำหรับการบังคับใช้ภาษีเหล่านี้ โดยให้เหตุผลว่า ต้องการให้ผู้ผลิตยาและเซมิคอนดักเตอร์มีเวลาตั้งโรงงานในสหรัฐฯ
สำหรับภาษีนำเข้ารถยนต์ ทรัมป์กล่าวว่าภาษี 25% อาจมีผลบังคับใช้เร็วที่สุดในวันที่ 2 เมษายน ประธานาธิบดีสหรัฐวิจารณ์มานานเกี่ยวกับแนวปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งทำให้สินค้าส่งออกของสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าที่สูงในตลาดต่าง ๆ เช่น ยุโรป
ยุโรปถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของทรัมป์ โดยเขาขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปให้เทียบเท่ากับอัตราภาษีของสหภาพยุโรป นอกจากนี้ ทรัมป์ยังออกคำขู่ในลักษณะเดียวกันต่อแคนาดา เม็กซิโก และอินเดีย
ภาษีนำเข้ารถยนต์อัตรา 25% อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทรถยนต์ระดับโลก เช่น Toyota (NYSE:TM) ซึ่งพึ่งพาตลาดอเมริกาเหนือเป็นหลัก ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐฯ อย่าง General Motors Company (NYSE:GM) และ Ford (NYSE:F) ซึ่งมีโรงงานในเม็กซิโก ก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน
คำขู่ล่าสุดของทรัมป์ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายภาษีของเขา ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษี 10% สำหรับจีน 25% สำหรับการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม และกำหนดแผนการขึ้นภาษีตอบโต้กับคู่ค้ารายใหญ่อีก
ประธานาธิบดียังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่การค้าระดับสูงศึกษาความไม่สมดุลในการค้าของสหรัฐฯ โดยรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้คาดว่าจะออกมาในช่วงต้นเดือนเมษายน
ขอบคุณข้อมูลจาก Investing Thailand
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
IB
FXCM
Pepperstone
KVB
IC Markets Global
FBS
IB
FXCM
Pepperstone
KVB
IC Markets Global
FBS
IB
FXCM
Pepperstone
KVB
IC Markets Global
FBS
IB
FXCM
Pepperstone
KVB
IC Markets Global
FBS