简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:หมอฟรัง นรีกุล เปิดใจในรายการ NEW GEN INVESTOR ว่าลงทุนคริปโตไปกว่า 2 ล้านบาท แต่พอร์ตดิ่งเหลือเพียง 6 แสนบาท ก่อนตัดสินใจ Cut Loss ออกมา แม้จะเชื่อมั่นในอนาคตของคริปโต แต่ความผันผวนของตลาดก็ไม่ปรานีใคร!
ในโลกการลงทุน ไม่มีใครรอดพ้นจากความผันผวนของตลาดได้ แม้แต่ “หมอฟรัง นรีกุล เกตุประภากร” นักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพชื่อดัง ที่หลายคนมองว่าเป็นคนเก่งและรอบรู้ ยังต้องเผชิญกับประสบการณ์ขาดทุนจากคริปโตอย่างเจ็บจี๊ด!
เธอได้เปิดใจเล่าประสบการณ์นี้ในรายการ NEW GEN INVESTOR ทางช่อง THE STANDARD WEALTH ซึ่งออกอากาศทาง YouTube เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยไม่เพียงแชร์มุมมองเรื่องการเงินและการลงทุน แต่ยังเปิดเผยเรื่องราวการ ขาดทุนจากคริปโต ที่เธอลงทุนไปกว่า 2 ล้านบาท แต่พอร์ตกลับร่วงเหลือเพียง 6 แสนบาท สะท้อนให้เห็นว่าตลาดนี้ไม่ปรานีใคร แม้กระทั่งคนดังที่ดูมั่นใจและพร้อมเสี่ยง!
เรื่องราวของหมอฟรังไม่ใช่แค่เหตุการณ์ขาดทุนธรรมดา แต่เป็นบทเรียนที่เตือนใจนักเทรดทุกคนว่า “ความเสี่ยงมีอยู่เสมอ” และ “การลงทุนต้องมีความรู้และแผนที่ชัดเจน”
ประสบการณ์ขาดทุนที่ไม่เคยลืม
หมอฟรังเล่าว่า การลงทุนในคริปโตนี้เริ่มขึ้นช่วงที่เธอเรียนจบใหม่ ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่คริปโตกำลังบูมสุด ๆ เธอตัดสินใจลงทุนแบบจัดเต็ม เพราะเชื่อมั่นในอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัล ถึงแม้จะรู้ดีว่าตลาดนี้มีความเสี่ยงสูง แต่ก็คิดว่า “ถ้ามันเจ๊ง ก็ยังอยู่รอดได้ ไม่ลำบากมาก”
เธอลงทุนไปกว่า 2 ล้านบาท แต่สุดท้ายตลาดคริปโตกลับผันผวนอย่างรุนแรง ทำให้พอร์ตของเธอลดลงเหลือเพียง 6 แสนบาท ก่อนที่เธอจะตัดสินใจ Cut Loss และนำเงินที่เหลือออกมา
บทเรียนจากการ Cut Loss และความผิดพลาดที่ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
หมอฟรังเปิดใจอย่างตรงไปตรงมาว่า การ Cut Loss ในครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะเธอทำไปในช่วงที่ตลาดไม่ควรถูกตัดขาดทุน ซึ่งเธอได้ยกตัวเองเป็น “ตัวอย่างของกรณีศึกษาการลงทุนที่มีข้อผิดพลาด”
บทเรียนสำคัญที่เธอได้จากการขาดทุนครั้งนี้คือ “อย่าตามเพื่อน ต้องเรียนรู้และศึกษาด้วยตัวเอง” เธอยอมรับว่าตอนนั้นเธอก็ศึกษามาพอสมควร แต่ไม่เพียงพอที่จะรับมือกับความผันผวนของตลาดได้
หมอฟรังยังเผยอีกว่า การลงทุนทุกครั้งเธอมีการคิดและหาเหตุผลมาสนับสนุนการตัดสินใจของตัวเอง แต่สุดท้ายเหตุผลเหล่านั้นก็ไม่มากพอที่จะช่วยให้เธอผ่านวิกฤตได้ เธอทิ้งท้ายด้วยการตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ควรมั่นใจแค่ไหนถึงจะลงทุนได้อย่างปลอดภัย?”
สรุป: บทเรียนการลงทุนจากหมอฟรังที่นักเทรดต้องจำให้ขึ้นใจ
เรื่องราวของหมอฟรังเป็นตัวอย่างที่ดีที่สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของตลาดคริปโต ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีชื่อเสียงหรือไม่ก็ตาม ก็สามารถพลาดได้ถ้าไม่ศึกษาให้ถี่ถ้วน
สำหรับนักเทรดทั้งหลาย บทเรียนจากหมอฟรังนี้คือ อย่าลงทุนตามกระแสและอย่าตัดสินใจด้วยอารมณ์ การมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนและการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ใครจะไปคิดว่า “หมอฟรัง นรีกุล” ที่ดูมั่นใจและมีความรู้เรื่องสุขภาพ จะต้องมาเผชิญกับประสบการณ์ขาดทุนในตลาดคริปโตแบบนี้ เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เตือนใจนักลงทุนทุกคนว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎของตลาด” อย่าประมาท และอย่าหยุดเรียนรู้!
ขอบคุณข้อมูลจาก THE STANDARD WEALTH
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Malone Lam ชาวสิงคโปร์วัย 20 ปี ถูกตั้งข้อหาในสหรัฐฯ ฐานขโมย 4,100 BTC มูลค่า 230 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีหลอกลวงเหยื่อผ่าน social engineering และฟอกเงินด้วย crypto mixers หากถูกตัดสินว่าผิด เขาอาจถูกจำคุกสูงสุด 20 ปี โดยมีกำหนดไต่สวนวันที่ 6 ตุลาคม 2025
แม้ว่า Bitcoin จะถูกออกแบบให้เป็น "เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer" แต่ปัจจุบันกลับถูกใช้เป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่ามากกว่าการใช้จ่ายจริง อุปสรรคหลักที่ขัดขวางการใช้งานในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ความซับซ้อนของเทคโนโลยี ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ความล่าช้า และความผันผวนของราคา อย่างไรก็ตาม Lightning Network ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็วขึ้นและต้นทุนต่ำลง ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มรองรับ Bitcoin มากขึ้น เช่น การชำระเงินผ่าน POS การโอนเงินแบบ Lightning Address และการใช้ The Bolt Card Bitcoin กำลังพัฒนาไปสู่การเป็นระบบการเงินที่ใช้งานได้จริง ซึ่งอาจทำให้กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่แพร่หลายทั่วโลกในอนาคต
นักวิเคราะห์เตือน! ราคา Bitcoin หลุดแนวรับสำคัญแล้ว เป้าราคาต่อไปอาจอยู่ที่ $69,000
เหตุการณ์ล่มสลายของ FTX เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักลงทุนคริปโตทั่วโลก จากแพลตฟอร์มที่เคยได้รับความไว้วางใจสูงสุด สู่การล้มละลายในเวลาไม่กี่วัน ปัญหาเกิดจากความเชื่อมโยงทางการเงินที่ไม่โปร่งใสระหว่าง FTX และ Alameda Research นำไปสู่ความตื่นตระหนกของนักลงทุน การเทขายโทเค็น FTT และการขาดสภาพคล่อง สุดท้าย FTX ต้องยื่นล้มละลาย และ SBF ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบพื้นฐานบริษัท การกระจายความเสี่ยง และการเก็บสินทรัพย์ในกระเป๋าส่วนตัว มากกว่าฝากไว้กับแพลตฟอร์มเพียงแห่งเดียว