简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยในวันที่ 1 เมษายน โดยดัชนีดอลลาร์ขยับขึ้น 0.05% นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจอโรม พาวเวลและการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรจากทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจและการเคลื่อนไหวของตลาด ข้อมูลการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐฯ ลดลง และภาคการผลิตหดตัว
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคารที่ 1 เมษายน ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนรอคอยการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล ขยับขึ้น 0.05% แตะที่ระดับ 104.260 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8840 ฟรังก์ จาก 0.8822 ฟรังก์ในวันจันทร์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนญี่ปุ่นที่ 149.40 เยน และดอลลาร์แคนาดาที่ 1.4336 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.0787 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์ก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ 1.2910 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจอโรม พาวเวลที่จะกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในการประชุมประจำปีของ Society for Advancing Business Editing and Writing (SABEW) ในวันศุกร์ที่ 4 เมษายน เวลา 22.25 น. ตามเวลาไทย ขณะที่ยังมีการจับตาการประกาศมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันพุธที่ 2 เมษายน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและการเคลื่อนไหวของตลาด
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานในเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 194,000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ 7.57 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าที่คาดการณ์ และข้อมูลจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) แสดงให้เห็นว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ 49.0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิต เนื่องจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากร
ในด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ Austan Goolsbee ประธานธนาคารกลางชิคาโกกล่าวว่า แม้ข้อมูลเศรษฐกิจยังคงแสดงถึงความแข็งแกร่ง แต่ภาษีการค้าที่เพิ่มขึ้นภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์มีความเสี่ยงที่จะกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการเติบโตที่ชะลอตัว
Goolsbee กล่าวว่า ภาษีครั้งเดียวอาจทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากการนำเข้ามีสัดส่วนเพียง 11% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจตอบสนองต่อภาษีอย่างรุนแรง อาจเกิด “การยกระดับ” ภาษีซึ่งอาจทำให้การเติบโตชะลอตัวลงและก่อให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่ผู้บริโภคและธุรกิจ ส่งผลให้การใช้จ่ายและการลงทุนลดลง
เขายังกล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ยากลำบากยังคงค่อนข้างมั่นคง และหากสามารถผ่านช่วงความไม่แน่นอนนี้ไปได้ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ โดยตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อก็ยังคงมีแนวโน้มลดลง
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและธุรกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำ และการรอดูมาตรการภาษีศุลกากรจากประธานาธิบดีทรัมป์ในวันที่ 2 เมษายนนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อทิศทางของเศรษฐกิจในระยะต่อไป
ขอบคุณ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
Markets.com
AvaTrade
ATFX
FOREX.com
Saxo
GTCFX
Markets.com
AvaTrade
ATFX
FOREX.com
Saxo
GTCFX
Markets.com
AvaTrade
ATFX
FOREX.com
Saxo
GTCFX
Markets.com
AvaTrade
ATFX
FOREX.com
Saxo
GTCFX