简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บทความนี้สำรวจผลกระทบของแผ่นดินไหวต่อค่าเงินและตลาดการเงินทั่วโลก ผ่านกรณีศึกษาในญี่ปุ่น อินเดีย เม็กซิโก และไทย ชี้ให้เห็นว่าตลาดมักตอบสนองด้วยความวิตกในระยะสั้น ก่อนจะปรับตัวตามข้อมูลพื้นฐาน นักเทรดสามารถใช้ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสในการทำกำไร หากวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ
เคยสงสัยไหมว่าแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในที่ไกลตัว จะมีผลกระทบกับตลาด Forex ที่เราเทรดกันอยู่ได้ยังไง? อย่าเพิ่งมองข้ามไป! เหตุการณ์ธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวสามารถทำให้ตลาดการเงินเกิดการเคลื่อนไหวที่นักเทรดหลายคนอาจไม่ทันตั้งตัว ซึ่งมันก็สามารถกลายเป็นโอกาสทองในการทำกำไรได้เช่นกัน
แอดเหยี่ยวจะพานักเทรดทุกท่านไปเรียนรู้จากกรณีศึกษาแผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้นจริง ๆ พร้อมวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับค่าเงินและสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารถจับจังหวะการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าพลาด! การศึกษาครั้งนี้อาจเปลี่ยนมุมมองการเทรดของคุณไปตลอดกาล
แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น (2011) และผลกระทบต่อค่าเงินเยน (JPY)
ขอบคุณรูปจาก redlovetree
ย้อนกลับไปในปี 2011 เมื่อแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ได้เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น พร้อมกับสึนามิที่พัดถล่มหลายพื้นที่ รวมถึงวิกฤติการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ซึ่งในช่วงแรกตลาดการเงินทั่วโลกสั่นสะเทือนกันยกใหญ่ ค่าเงินเยน (JPY) ร่วงลงจากการขายสินทรัพย์เสี่ยง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้ในช่วงที่ญี่ปุ่นประสบวิกฤต แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ทำให้ค่าเงินเยนกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งในช่วงหลังเหตุการณ์
บทเรียนที่ได้จากกรณีนี้:
แผ่นดินไหวในเนปาล (2015) และผลกระทบต่อสกุลเงินรูปีของอินเดีย (INR)
ขอบคุณรูปจาก วิกิพีเดีย
ในปี 2015 แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ที่เกิดขึ้นในเนปาล ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้น รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในเนปาล แต่ก็ส่งผลให้ค่าเงินรูปีอินเดีย (INR) อ่อนค่าลงในระยะสั้น เพราะนักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในภูมิภาค
ในขณะที่ความกังวลจากเหตุการณ์นี้ยังไม่คลี่คลาย นักเทรดสามารถสังเกตเห็นได้ว่า INR เริ่มฟื้นตัวเมื่อมีการช่วยเหลือและฟื้นฟูจากรัฐบาล และตลาดเริ่มกลับมามองเห็นโอกาสในเศรษฐกิจอินเดียที่ยังคงมีเสถียรภาพ
บทเรียนที่ได้จากกรณีนี้:
แผ่นดินไหวในเม็กซิโก (2017) และผลกระทบต่อตลาดน้ำมัน (WTI, Brent)
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat
แผ่นดินไหวขนาด 8.1 ที่เกิดขึ้นในเม็กซิโกเมื่อปี 2017 ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากในพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ เม็กซิโกเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันสำคัญของโลก การเกิดแผ่นดินไหวจึงทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะมีผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน
ในช่วงแรก ราคาน้ำมัน (WTI, Brent) เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันอาจได้รับผลกระทบ แต่เมื่อมีการประเมินผลกระทบและการฟื้นตัวในภาคพลังงานของเม็กซิโก ทำให้ราคาน้ำมันกลับมาปรับตัวลงในภายหลัง เนื่องจากการผลิตน้ำมันไม่หยุดชะงักตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์
บทเรียนที่ได้จากกรณีนี้:
แผ่นดินไหวในไทย (2021) และผลกระทบต่อเงินบาท (THB)
ในปี 2021 ประเทศไทยก็ไม่พลาดที่จะโดนแผ่นดินไหวขนาด 6.6 ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยและมีผลต่อค่าเงินบาท (THB) ในช่วงแรก ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเกิดความวิตกกังวลจากตลาดการเงินทั่วโลก แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ค่าเงินบาทก็กลับมาฟื้นตัวเมื่อผลกระทบจากแผ่นดินไหวเริ่มมีขอบเขตที่ชัดเจน
บทเรียนที่ได้จากกรณีนี้:
สรุป
แผ่นดินไหวอาจจะทำให้เราไม่สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดได้ง่าย ๆ แต่หากเรามองให้ลึกลงไป มันสามารถเป็นโอกาสในการทำกำไรให้กับนักเทรดได้ หากเราติดตามข่าวสารและประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรอบคอบ จากกรณีศึกษาที่ผ่านมา เราเห็นได้ว่าการตอบสนองของตลาดในช่วงวิกฤติจะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งการฟื้นตัวจากเหตุการณ์และความเสถียรของเศรษฐกิจ
นักเทรดที่มีความระมัดระวังและวิเคราะห์สถานการณ์อย่างดี จะสามารถใช้โอกาสในช่วงที่ตลาดผันผวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินและสินทรัพย์ต่าง ๆ หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
AvaTrade
Trive
STARTRADER
Markets.com
GO Markets
FXCM
AvaTrade
Trive
STARTRADER
Markets.com
GO Markets
FXCM
AvaTrade
Trive
STARTRADER
Markets.com
GO Markets
FXCM
AvaTrade
Trive
STARTRADER
Markets.com
GO Markets
FXCM