简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:รัฐบาลไทยประกาศยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรจากการขายคริปโตฯ เป็นเวลา 5 ปี (2568–2572) หากซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. มาตรการนี้มุ่งผลักดันไทยสู่การเป็น Digital Asset Hub ดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสร้างความมั่นใจให้ผู้ลงทุนคริปโตในประเทศ
แอดเหยี่ยวมีข่าวใหญ่ที่นักเทรดทุกคนควรรู้ โดยเฉพาะสายคริปโตฯ ที่กำลังลุ้นกันมานาน ว่าสุดท้ายรัฐบาลไทยจะเอายังไงกับเรื่องภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล ล่าสุดคำตอบมาแล้ว และบอกเลยว่าเป็น “ข่าวดีระดับชาติ” เพราะ ครม. ไฟเขียวให้กำไรจากการขายคริปโต ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นระยะเวลา 5 ปีเต็ม
ต้นเรื่องมาจากโพสต์ของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ประกาศผ่านแพลตฟอร์ม X ส่วนตัวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการภาษีชุดใหม่ เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็น Digital Asset Hub อย่างเป็นรูปธรรม
สรุปให้แล้ว
นี่ถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญ เพราะไทยกำลังจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศแรกของโลกที่จัดโครงสร้างภาษีคริปโตอย่างชัดเจน แถมยังเตรียมพร้อมเข้าสู่มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลของ OECD เพื่อยกระดับความโปร่งใสในการทำธุรกรรมดิจิทัลอีกด้วย
มุมมองจากแอดเหยี่ยว
แอดมองว่ามาตรการนี้คือ “การปลดล็อกความกล้า” ของนักลงทุนที่ยังลังเลอยู่ เพราะการที่รัฐออกมายืนยันชัดแบบนี้ มันคือสัญญาณว่า “เทรดคริปโตในไทยได้แบบไม่ต้องกลัวโดนเก็บย้อนหลัง” และยังเป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจหรือเทรดผ่านแพลตฟอร์มในไทยมากขึ้น
ถ้ารัฐบาลเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านนโยบาย Sandbox การออกใบอนุญาต และการสนับสนุน Web3 หรือ CBDC ประเทศไทยมีโอกาสจะขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับภูมิภาคได้ไม่ยาก
แอดอยากย้ำว่า สำหรับใครที่รอดูจังหวะดี ๆ เพื่อจะเริ่มเทรด นี่แหละคือช่วงเวลานั้น เพราะเมื่อโครงสร้างชัด ตลาดจะกลับมาคึก และโอกาสดี ๆ มักจะมาเร็วและไปเร็วเสมอ
เกาะติดไว้ แล้วเตรียมตัวให้พร้อม เพราะการลงทุนที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องของผลตอบแทน แต่มันคือ “การมองเห็นก่อนใคร” และกล้าตัดสินใจก่อนที่ตลาดจะรู้ตัว
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เปรียบเทียบบิทคอยน์และทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในด้านจำนวนจำกัด ความสามารถในการเก็บมูลค่า ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ทั้งสองสินทรัพย์มีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงและตอบโจทย์นักลงทุนในลักษณะที่ต่างกัน — บิทคอยน์เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและสนใจเทคโนโลยีใหม่ ส่วนทองคำเหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว บทสรุปเสนอแนวทาง “กระจายการลงทุน” ถือทั้งสองสินทรัพย์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสและความปลอดภัยในพอร์ตลงทุน
บทความนี้เปิดโปงปรากฏการณ์ “Pump and Dump” ในโลกคริปโต ที่อินฟลูเอนเซอร์ใช้ชื่อเสียงปลุกกระแสเหรียญเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน โดยมักได้รับค่าตอบแทนหรือถือเหรียญไว้ล่วงหน้า ก่อนราคาจะถูกปั่นขึ้นจากความเชื่อของผู้ติดตาม แล้วถูกเทขายจนเหรียญราคาร่วง กรณีศึกษา “SaveTheKids” ชี้ให้เห็นว่าแม้อินฟลูเอนเซอร์จะมีชื่อเสียง แต่ไม่ได้หมายความว่ามีจรรยาบรรณ นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
“Bitcoin Pizza Day” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี 2010 เมื่อโปรแกรมเมอร์ชาวฟลอริดาชื่อ Laszlo Hanyecz ใช้ Bitcoin จำนวน 10,000 เหรียญซื้อพิซซ่า 2 ถาด ถือเป็นครั้งแรกที่ Bitcoin ถูกใช้ในการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน แม้เหรียญเหล่านั้นจะมีมูลค่าเพียง 1,300 บาทในตอนนั้น แต่หากเก็บไว้จนถึงปัจจุบัน มูลค่าจะทะลุ 33,000 ล้านบาท เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยน Bitcoin จากแนวคิดในกลุ่มเล็ก ๆ ให้กลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่มีอิทธิพลทางการเงินอย่างมหาศาล.
บทความนี้พาย้อนรอยคดีแชร์ลูกโซ่ในโลกคริปโต ตั้งแต่ BitConnect, OneCoin, PlusToken ไปจนถึงโปรเจกต์ไทยอย่าง HashBX และฟีเวอร์ ICO ในปี 2017–2018 สะท้อนให้เห็นรูปแบบหลอกลวงที่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา แต่ยังคงใช้กลยุทธ์เดิมคือ “สัญญาผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น” โดยแฝงเทคโนโลยีทันสมัยมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ บทเรียนสำคัญคือ นักลงทุนต้องระวังกับคำพูดที่ดูดีเกินจริง และควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยได้ในระยะยาว.
STARTRADER
Exness
FXTM
AvaTrade
KVB
GO Markets
STARTRADER
Exness
FXTM
AvaTrade
KVB
GO Markets
STARTRADER
Exness
FXTM
AvaTrade
KVB
GO Markets
STARTRADER
Exness
FXTM
AvaTrade
KVB
GO Markets